รีวิว ROLEX SUBMARINER vs YACHT – MASTER

นาฬิกา

Rolex Submariner : Retail Price – 350,000 THB

Rolex Yacht-Master : Retail Price – 410,000 THB 

สำหรับแบรนด์นาฬิกาอย่าง Rolex คงไม่มีนักสะสมหรือคนทั่วไปต่อให้ไม่ใช่สายนาฬิกาก็แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก และโดยเฉพาะรุ่น Submariner ด้วยแล้ว จัดว่าเป็นนาฬิกาที่เป็น Iconic ที่สุดยอดที่สุด และเร็ว ๆ นี้ Rolex ได้ปล่อย Yacht-Master ออกสู่ตลาด Luxury Brand Watch ลองมาดูกันว่าระหว่างรุ่นที่เป็นตำนานระดับเทพแห่งนาฬิกาแบรนด์หรูอย่างรุ่น Submariner กับ Yacht-Master มีความน่าสนใจที่แตกต่างกันอย่างไร

เราได้เลือกเอา Submariner-Date Ref. 116610LN ขอบเซรามิก และ Yacht-Master Ref. 16622 วัสดุ

แพลตินั่ม และเป็นรุ่นแรกของ Rolex ที่ใช้วัสดุนี้ในการผลิต เป็นสองรุ่นที่มีดีไซน์เหมือนกันแต่มีความแตกต่างอยู่ในเวลาเดียวกันและความแตกต่างนั้นน่าสนใจมากทีเดียว

Story

Rolex ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นตำนานเมื่อปี 1954  ในฐานะนาฬิกากันน้ำรุ่นแรกที่จัดว่าเป็นที่น่าจัดตาของมาตรฐานนาฬิกาที่กันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร และที่ทำให้ Submariner ได้รับความโด่งดังไปทั่วโลกเพราะได้ถูกสวมใส่จากนักแสดงนำในเรื่องเจมส์ บอนด์ 007 

ต่อมาในปี 1992 Yacht-Master ได้เปิดตัวขึ้นมาหลัง Quartz Crisis และในขณะนั้นนาฬิกาแนว Sport Luxury มาแรงมากแซงทุกรูปแบบ และแบรนด์หรูอย่าง AP และ Patex Philippe ก็ผลิตออกมาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งในขณะนั้น Sport Watch ของ Rolex ยังเป็นรองอยู่มากเพราะดูเหมือนจะเป็นแบบ True Watch เน้นการใช้งานจริงมากกว่า 

จึงเป็นที่มาของการผลิต Yacht-Master ขึ้นมาเพื่อแข่งขันในตลาด Luxury แข่งกับทั้งสองแบรนด์ โดยใช้โมเดลของ Submariner แต่ปรับวัสดุที่ใช้เป็นระดับพรีเมียมทั้งหมด และ Fininshing ที่ละเอียดมากขึ้น Yacht-Master จึงได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1992 รุ่น Yacht-Master Ref. 16628 แต่ก็ยังไม่เปรี้ยงเพราะนักสะสมยังสนใจ Submariner วินเทจ และ Explore Sport Watch มากกว่า 

แต่ทาง Rolex ก็ยังคงพัฒนา Yacht-Master ต่อไปใช้เวลาทั้งหมด 20 ปี เพราะแต่ละรุ่นที่ออกมาใช่ช่วงเวลานั้นก็ยังไม่สามารถสร้างกระแสให้กับแบรนด์ได้ แต่ในที่สุด Rolex ได้ปรับรูปแบบอีกครั้งในปี 2015 ออกมาเป็น Yacht-Master Ref. 116655 และได้รับการยอมรับเข้ามาในกระแสนาฬิกา Sport Luxury Brand ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

Design

หากพูดถึงเรื่องการออกแบบ สองรุ่นนี้มีแบบที่คล้ายคลึงกันแต่จะมีบางจุดที่มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเข้ามาในรุ่น Yacht-Master เพื่อให้ Luxury ขึ้น 

Submariner : เป็นการออกแบบมาเพื่อเป็นนาฬิกาดำน้ำในครั้งแรก และสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร หน้าปัดขนาดใหญ่กำลังดีขนาด 40 mm. และการให้ขอบของ Submariner จะเป็นขอบเซรามิคสีดำทั้งหมด เป็นการเลือกใช้เซรามิคอย่างดีที่มีความแข็งแรงและทนทานมากสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและการกระแทกได้เป็นอย่างดีเยี่ยม 

ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Submariner นั่นก็คือ การแกะสลักตัวเลขบนพื้นเซรามิคที่เฉียบคมและมีความโดดเด่นทั้งตัวกรอบ ให้ความรู้สึกหนักแน่น ซับมารีนเนอร์ถูกออกแบบมาเพื่อการดำน้ำดังนั้นขอบ bezel จึงสามารถหมุนไปได้เพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากเป็นการทำงานแบบ True Watch จึงทำให้การหมุนได้เพียงด้านเดียวเป็นการป้องกันการทำงานผิดพลาดในเรื่องของความแม่นยำหากมีการสัมผัสแบบไม่ได้ตั้งใจ

มีการใส่เลนส์ขยายวันที่ให้เห็นชัดขึ้น และมีการใส่สารเรืองแสงที่หน้าปัดและเพิ่มสารเรืองแสงที่ขอบตัวเรือนด้วยเพื่อการมองเห็นในน้ำที่ชัดขึ้น เข็มบอกเวลาแบบ Mercedes Hands สายแบบไกด์ล้อคมีเฉพาะใน Rolex มีความสามารถปรับสายเข้าออกได้เพื่อใช้งานกับการใส่ทับ Wetsuit ในขณะดำน้ำ

Yacht-Master: สำหรับ Yatch Masterพูดถึงหน้าปัดตัวเรือนมีความกว้างเท่ากับของซับมารีนคือ 40 mm. เป็นนาฬิกาที่ถูกผลิตออกมาเพื่อใช้เป็นแบบในการเดินเรือดังนั้นประสิทธิภาพในการดำน้ำอาจจะสู้ Submariner ไม่ได้เพราะสามารถดำน้ำได้เพียง 100 เมตรเท่านั้น

วัสดุของ Yacht-Master นั้นจะเป็นการใช้วัสดุที่เรียกว่า Lolesium เป็นวัสดุที่ใช้ผสมผสานระหว่างวัสดุ Platinum และ Stainless Steel รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งตรงนี้จะทำให้ตัว Yacht-Master มีความหรูหราและหลักชุดด้วยวัสดุอย่างดีได้มากกว่า

สำหรับตัวเลขที่แกะสลักของยอร์ชมาสเตอร์ มีความคมชัดที่เหมือนกันแต่ตัวเลขจะมีความใหญ่ขึ้น และมีความนูนที่เห็นได้ชัดขึ้นมาก มีการปรับการทำงานของคอมเพรสเซอร์ในรุ่นนี้ที่ไม่เหมือนกับ Submariner นั่นก็คือสามารถหมุนได้ทั้ง 2 ด้านทำให้มีการทำงานที่ง่ายขึ้น มีการใส่เลนส์ขยายวันที่และการใส่สารเรืองแสงที่หน้าปัด ใช้เข็มบอกเวลาแบบ Mercedes Hands เพิ่มลูกเล่นที่เข็มวินาทีสีแดง 

บริเวณพื้นหน้าปัด Yacht-Master จะถูกใช้เนื้อผิวแบบเนื้อทรายเพื่อให้เกิดความหรูหราเมื่อเกิดแสงกระทบมาที่ตัวเรือน การเก็บรายละเอียดงานมีความเนี้ยบไม่แพ้กัน รวมไปถึงสายนาฬิกาไม่มีไกด์ล็อค เป็นตัวแบบ Micro Adjuster 

Movement

สำหรับกลไกของทั้งสองแบบนี้ใช้เป็นแบบ Calibre 3135 ที่เป็น movement หลักของ Rolex ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1988 ประสิทธิภาพการสำรองพลังงานได้ถึง 48 ชั่วโมงเท่ากันทั้งสองรุ่น อีกทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐาน COSC ทั้งสองรุ่นอีกด้วย

Calibre 3135

ความแตกต่างของทั้งสองรุ่นระหว่าง Rolex Submariner vs Rolex Yacht-Master มีความแตกต่างกันไม่มาก และเป็นการอัพเกรดตัว Submariner ให้เข้าสูตลาดของ Dress Watch ได้มากกว่าด้วยการให้ความหรูหราเพิ่มเติมในบางฟังก์ชัน แต่โดยรวมทั้งหมดก็ยังเป็นพื้นฐานจาก Submariner ตัว Iconic แห่ง Rolex นั่นเอง  watchfunonline

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> UFABET

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG