Hermès เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกกับการเป็นแบรนด์ Higher-End ระดับโลก ไม่ว่าจะหยิบจับแฟชั่นอะไรของแบรนด์นี้บอกเลยว่ายกระดับตั้งแต่เริ่มคิดว่าจะซื้อเป็นเครื่องประดับ เพราะด้วยราคาและคุณภาพที่วงการเครื่องประดับแฟชั่นรู้กันดีถึงความปราณีตและความเอกลักษณ์สูงเหมือนคนมีโลกส่วนตัว ไม่มีการตลาดแรงเพื่อต่อสู้กับใครเพราะสินค้าทุกคอลเลกชันขายตัวเองได้ทั้งหมด
พวกเขาได้พัฒนาแฟชั่นเครื่องประดับไปอีกขั้นกับนาฬิการูปทรงแปลก ด้วยการร่วมมือกับ Jean-François Mojon แห่ง Chronode ที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างกลไกนาฬิการะดับโลกจัดอยู่ในระดับ Higher-end ทุกชิ้นของผลงานของชายผู้นี้ จากความอัจฉริยะในด้านกลไกของ Jean-François Mojon ผสมกับผู้นำแฟชั่นแบบที่สุดของที่สุดความหรูหราอย่าง Hermès จึงได้ผลิตนาฬิกาที่หายากระดับโลกในคอลเลกชันHermès Arceau Le Temps Voyageur
Hermès Arceau Le Temps Voyageur

เรือนนี้ Mojon ได้บรรจงใส่ความครีเอทอย่างเหนือชั้นให้ออกมาเป็นนาฬิกาในจินตนาการที่เป็นจริง การนำเอาการดูเวลารอบโลก GMT เข้ามาไว้ที่ขอบแป้นหมุนบนตัวเรือน โดยให้เวลาของแต่ละประเทศอยู่โดยรอบเพื่อการมองเห็นที่ชัดขึ้น และการทำหน้าปัดย่อยขนาดเล็กกำลังดีเพื่อบอกเวลาท้องถิ่น เป็นความลงตัวที่บ่งบอกความหรูหราในระดับของ Hermès
มีการเพิ่มลูกเล่นบนหน้าปัด เมื่อไหร่ที่คุณกดมันลงไปเบา ๆ เพื่อดูเวลาของเมืองที่คุณอยากรู้ และทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยเวลาจากหน้าปัดย่อย เมื่อไหร่ที่คุณได้พบกับเวลาเมืองที่คุณอยากจะรู้ เวลาท้องถิ่นยังคงเดินตามปรกติไม่หยุดนิ่ง เพราะการสร้างช่องรับแสงหรือที่เรียกว่า “Home Time” ที่สามารถเปลี่ยนได้ง่าย ๆ ด้วยเม็ดมะยมเม็ดเดียวมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผสมผสานเวลาโลกและเวลาท้องถิ่นไว้ในกลไกเดียวกัน แต่สำหรับ Hermès และนักออกแบบระดับโลกอย่าง Mojon ไม่มีคำว่าทำไม่ได้และทำออกมาได้เยี่ยมยอดมากเสียด้วย
Hermès Arceau Le Temps Voyageur รุ่นสีเทา
Retail Price 748,660 THB
ที่เรานำมาให้ยลโฉมกันนี้มีขนาดหน้าปัดกว้าง 41 mm. เคลือบด้วยสารไทเทเนียมที่ถูกเคลือบแพลตตินัมDLC สีดำ ซึ่งวัสดุชนิดนี้เป็นสุดยอดแห่งนวัตกรรมการผลิตนาฬิกาคุณภาพระดับโลก
Hermès Arceau Le Temps Voyageurรุ่นสีน้ำเงิน
Retail Price 956,990 THB
รุ่นนี้มีขนาดหน้าปัดที่เล็กกว่าเล็กน้อย 38 mm. และตัวเรือนเป็นสตีลงานดีทั้งหมด โดยรูปแบบที่เป็นแบบฉบับของ Hermès เคส Arceau จะมีการออกแบบที่ไม่ต้องการให้ดูสมดุลในแนวนอน เป็นความครีเอทของดีไซน์ โดยให้ตัวเชื่อมด้านบนมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างไปจากด้านล่างอย่างสิ้นเชิง ที่ด้านบนมีลักษณะคล้ายกับลวดเชื่อม มีความคล้ายคลึงกับแบรนด์หรูอีกแบรนด์คือ Panerai Radiomir แต่ด้านล่างของเคสจะสั้นกว่า
ความน่าสนใจของ Finishing
หากสังเกตดี ๆ สำหรับ Finishing ของ Hermès Arceau Le Temps Voyageur แผนที่ด้านหลังการแสดงเวลาจากดาวเทียมเป็นแผนที่ในจินตนาการที่มาจากความคิดที่อัจริยะของผู้ออกแบบ มันไม่มีปรากฏพื้นที่นี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนที่ทวีปและมหาสมุทรใด ๆ ของโลกเลยแม้แต่น้อย มันเป็นแผนที่โลกใหม่ตามไลฟ์สไตล์ของ Hermès การที่แบรนด์ได้เพิ่มความมีลูกเล่นนี้เข้าไปกับดีไซน์อื่น ๆ ก็เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างการเดินทางส่วนตัวกับโลกของแฟน ๆ สัญลักษณ์นักขี่ม้าของแบรนด์ Hermès เท่านั้น แต่มันเป็นการจินตนาการที่คาดไม่ถึง
การให้ความเชื่อมโยงในรูปแบบเป็นเพราะอย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า Hermès เริ่มต้นธุรกิจในปี 1837 จากการเป็นโรงงานผลิตอานม้าในย่าน Grands Boulevards ของกรุงปารีส เป็นแบรนด์ที่อุทิศตนเพื่อรับใช้ขุนนางชาวยุโรป มาอย่างช้านาน และได้เรียนรู้ไปจนถึงโลกแห่งการขี่ม้า ที่สร้างความเชื่อมโยงต่อชนชั้นสูงได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนที่โลกของ Hermès ที่ถูกสร้างจากจินตนาการและมันสมองของนักออกแบบที่ชื่อ Jérôme Colliard และแผนที่โลกนี้เป็นจินตนาการที่เรียกว่า “ planisphère d’un monde équestre ” และสำหรับสินค้าอื่น ๆ ของแบรนด์ที่ถูกใช้แผนที่เหล่านี้ในการออกแบบเช่นกันเช่น ผ้าพันคอไหมชื่อเดียวกัน ใช้จินตนาการแผนที่โดยได้รับแรงบันดาลใจจากลูกโลกขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นโดยนักออกแบบกราฟิกชาวฝรั่งเศสในปี 2016เชื่อมโยงเข้ากับการแข่งขันโชว์กระโดดของ Saut Hermèsในปารีส Hermès และสรุปได้ว่าแผนที่โลกในจินตนาการนี้ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากยุคโบราณ มีภาพวาดและชื่อที่ชวนให้หลงใหลในการขับขี่ของนักขี่ และไม่เพียงเท่านั้นทุกอย่างที่ออกแบบมาก็ได้มาจากบันทึกที่สำคัญของนักภูมิศาสตร์ในดินแดนที่มองไม่เห็น
ในความเป็น Hermès ทุกอย่างย่อมมีที่มาที่ไม่เหมือนใครเสมอ และหากจะสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นเครื่องประดับสักชิ้น แบรนด์ก็คงไม่ปล่อยให้ทุกอย่างไร้ร่องรอยและไม่มีที่มาอย่างแน่นอน watchfunonline
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> บาคาร่าออนไลน์