Orient Star แบรนด์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดแห่งปี แบรนด์นาฬิกาจากญี่ปุ่นจะเรียกว่าเป็นแบรนด์ลูกของ Orient ก็ว่าได้ เป็นแบรนด์ลูกที่สามารถยกระดับแบรนด์ให้อยู่ในระดับแบรนด์หรูสายเลือกเอเชียได้ไม่น้อยหน้าใคร โดยเริ่มต้นเมื่อปี 1951 ผลิตนาฬิกาออกมาแล้วนับไม่ถ้วนในเวลา 70 ปี
ในปี 2022 นักสะสมหลาย ๆ คนหรือคนที่สนใจอยากมีนาฬิกาเรือนแรกในชีวิตที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ค่อนข้างดูโดดเด่น ใช้งานได้ รูปทรงสวย และที่สำคัญราคาเข้าถึงง่าย มักจะเริ่มหันมาสนใจในคอลเลคชั่นนี้กันอย่างดุเดือด เพราะคอนเซปที่ฟังแล้วต้องรีบคว้าไว้อย่าง Now here, Now here ที่แปลได้ว่า “ไม่มีที่ไหนแล้วที่คุณจะพบได้ จะพบได้ที่นี่” มาดูกันว่ามีเรือนไหนที่น่าสนใจบ้าง
ORIENT STAR DIVER 1964 Limited Edition RE-AU0501B
Retail Price : 51,000 THB
เป็นรุ่นที่ผลิตมาในการใช้ดีไซน์แบบรุ่นดั้งเดิมของ Diver Watch ของแบรนด์อย่าง Olympia Calendar Diver 1964 รูปแบบนาฬิกาเมื่อมองไปแล้วให้ความรู้สึกถึงความเก่าแบบมีมูลค่า อาจจะเรียกว่าให้ความรู้สึกวินเทจก็ว่าได้เหมือนกัน และยังเป็น limited Edition ที่ถูกผลิตมาเพียง 500 เรือนเท่านั้น แพ็คเกจของนาฬิกาก็แปลกไม่เหมือนใครให้ความรู้สึกมากมูลค่าด้วยกล่องที่เป็นลักษณะ Booklet ที่มีภาพความเป็นมาของเรือนแรกที่เก่าแก่จนมาถึงปัจจุบัน
การบอกเวลาในหลักชั่วโมงที่ยังคงความเป็น 3 มิติ คงความเข็มบอกเวลาแบบ Arrow Hand กรอบ Bezel ที่ทำมาจาก Stainless Steel ภาพรวมที่ให้ความเป็นวินเทจในรุ่นก่อนได้ดีมาก ๆ สำหรับ Orient Star Diver 1964 มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย 3 ส่วนด้วยกัน
- การออกแบบหน้าปัดให้มี Power Reserve Indicate วางไว้ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และให้ Power Reserve ได้ถึง 50 ชั่วโมง ซึ่งจัดว่ามากที่สุดสำหรับนาฬิการะดับเดียวกัน ที่สำคัญเรียกว่าเป็น Iconic ดีไซน์แห่งความเป็นเอกลักษณ์ของ Orient Watch ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1996
- มีการเปลี่ยนแปลงจากกลไกเดิมให้มาเป็นแบบ Automatic Watch และพัฒนาการดำน้ำลึกจากระดับสิบคือ 40 เมตร ขึ้นไปสู่หลักร้อยเมตรถึง 200 เมตร เลยทีเดียว
- การใส่ลูกเล่นใช้งานจริงที่สายนาฬิกา เนื้อ Steel ที่แข็งแรงและยังมีการใช้ปุ่มกดปรับสายที่ง่ายขึ้น และออกแบบมาให้ใส่ได้หลายขนาดสามารถใส่ได้ทุกวันและเข้ากับ Wetsuit ก็ง่าย
ORIENT STAR NEBULA CONCEPT
ORIENT STAR CLASSIC SEMI-SKELETION Limited Edition RE-NDOO14L
Retail Price : 21,000 THB
รุ่นนี้จะอยู่ภายใต้คอนเซปควันหมอกสีสวยในจักรวาล หรือ Nebula ที่เป็นภาษาลาติน สำหรับ Classic Semi-Skeletion มีการออกแบบมาเอาใจนักสะสมทุกเพศ เพราะสร้างมาสำหรับ Men’s Size ในหน้าปัดและเคสเป็นสี Silver แต่ให้ความ Gold ใส่ในรุ่นของผู้หญิงกับ Women’s Size แต่มีความโดดเด่นที่เหมือนกันทั้งสองรุ่น นั่นคือ ภายในหน้าปัดจะเป็นเนื้อระยิบระยับเหมือนเป็นดวงดาวในแกแลคซี่ ให้ความเป็นสีน้ำเงินดูสบายตา
วัสดุหน้าปัดใช้วัสดุทองเหลืองพ่นแบบเพิ่มกริตเตอร์ไปที่กรอบ และที่โดดเด่นที่สุดของรุ่นนี้ก็คือ หน้าปัดจะมีจุดโชว์ให้เห็นกลไกที่เรียกว่า Openwork Skeletion ในตำแหน่งที่ 9 นาฬิกา และเป็น Iconic Design อีกแบบหนึ่งที่มีต้นแบบในปี 2003 ทั้งสองแบบนี้เป็นรุ่น Limited Edition ผลิตมาเพียง 150 เรือนเท่านั้น
ORIENT STAR MODERN SKELETION Limited Edition RE-AVO118L
Retail Price :
Modern Skeleton ยังคงยึดในคอนเซปดาวระยิบอยู่เหมือนเดิมเพิ่มขึ้นมาคือการไล่เฉดสีที่หน้าปัดเป็นสีเขียนแทนที่สีน้ำเงิน แต่ให้ดีไซน์เดิมของ Power Reserve ตำแหน่ง 12 นาฬิกาเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนรูปโฉมไป มีการเปิด Openwork ที่มากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดถึงกลไกภายในตัวเรือน และความใหญ่ของ Semi-Skeletion
เข็มบอกเวลาที่ให้เป็นสีทองแสดงถึงดวงดาวที่สว่างสดใสในแกแลคซี่ ทั้งหมดเป็นความ Modern ตามชื่อรุ่นที่ตั้งขึ้นได้ชัดเจน สำหรับรุ่นนี้ยังคงความเป็น Limited อยู่ และผลิตออกมาเพียง 600 เรือนเท่านั้น
ORIENT STAR MOONPHASE
Retail Price : 75,000 THB
รุ่นนี้จัดว่าเป็นรุ่นที่โดดเด่นที่สุดจากทั้งหมดนี้มีความเป็น Mechanical Moon Phase การไล่เฉดสีแบบพิเศษสุด และวัสดุหน้าปัดมากจาก Mother of Pearl คือเปลือกหอยมุกที่มีสีที่เป็นธรรมชาติที่เข้ากันทั้งหมด ให้การสะท้อนแบบ Nebula ที่สะท้อนอยู่ในอวกาศ โดดเด่นด้วย Sub Dial แบบ Moon Phase ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา จัดได้ว่าเรือนนี้เป็นเรือนแรกที่ได้ผลิตเอา Moon Phase มาไว้บนข้อมือของแบรนด์ Orient Star
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้กับอุปกรณ์เสริมของรุ่นนี้ สายที่ให้ความคลาสิคจากการผลิตเป็นสายหนังสะโพกม้าสีดำที่มีความทนทานและเรียบสวยเป็นพิเศษเรียกว่า Cordovan Strap ที่สำคัญเรือนนี้ผลิตออกมาเพียง 100 เรือนเท่านั้น
ORIENT STAR LAYERED SKELETION
Retail Price : 34,000 THB
Layered Skeleton มีออกมาค่อนข้างบ่อย แต่สำหรับปีนี้จะเพิ่มความพิเศษเข้าไปกว่าเดิม และให้แรงบันดาลใจด้านการออกแบบมาจาก Textile ด้วยการออกแยกหน้าปัดออกมาเป็น 2 เลเยอร์ สำหรับเลเยอร์แรกนำเอาแรงบันดาลใจมาจากลายเสื้อสูทผู้ชาย Herringbone หรือลายก้างปลาให้สีน้ำตาลบนหน้าปัด และอีกเลเยอร์หนึ่งเป็นลายที่เรียกว่า Paisley Pattern เหมือนหยดน้ำลายอยู่บนผ้าเช็ดหน้าโดยให้เป็นสีน้ำเงิน
การให้สีที่ตัดกันแต่มีความลงตัวสูงทำให้เลือกผลิตออกมาแบบ 3 โทนสี อย่าง น้ำตาล ขาว และดำ ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป ผลิตออกมาเป็นปรกติ
ทั้งหมดนี้เป็นรุ่นที่อยู่ภายใต้การเฉลิมฉลอง 70’s ปี ของแบรนด์ ORIENT STAR แต่ยังคงคอนเซปดีไซน์เดิมและเพิ่มเติมจากการอัพลุคให้ดูดีขึ้นและมีกลไกการทำงานที่โมเดิร์นมากขึ้นกว่าเดิม เป็นการเลือกการเฉลิมฉลองที่ยกระดับแบรนด์ ORIENT STAR ได้อย่างลงตัวทีเดียว
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ไฮโลไทย