เมื่อพูดถึงนาฬิกาที่บอกว่าเป็นรุ่น Limited Edition แล้ว หลายคนอาจจะคิดว่านั่นเป็นเพราะผลิตออกมาน้อยราคาสูง นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะความเป็นนาฬิกา Limited Edition ที่เรานำมาให้คุณได้อินไปกลับประวัติความเป็นมาและแรงบันดาลใจในการผลิตออกมาแล้ว คุณจะรู้สึกเลยว่าราคาไม่ใช่ตัวแปรที่จะสร้างความLimited
สำหรับนาฬิกา Limited Deition ที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ เป็นการนำเอาแรงบันดาลใจและกลไกที่ดีที่สุดเข้ามารวมไว้ด้วยกัน และเป็นการผลิตที่ทำเพื่อเหตุการณ์สำคัญที่แน่นอนว่าจะไม่มีการสร้างอีกต่อไป จึงนำมาสู่มูลค่าราคาที่แพงและมีจำนวนน้อย เพราะคนที่ต้องการมันจริง ๆ เท่านั้นที่จะมีโอกาสได้เห็นคุณค่าทุกส่วนของแต่ละเรือน
G-SHOCK MURAKAMI
Price 120K
นาฬิกา Limited Edition สำหรับรุ่นนี้ G-SHOCK MURAKAMI เป็นการ Collaboration ระหว่างแบรนด์ G-SHOCK กับศิลปินชื่อดังในญี่ปุ่น TAKASHI MURAKAMI ศิลปินที่มีแฟนคลับที่เหนียวแน่นที่สุดในญี่ปุ่น และผ่านการ Collaboration กับแบรนด์ดังหลายแบรนด์ทั่วโลก สำหรับรุ่นนี้ผลิตออกมาเพื่อเป็นการฉลองครบรอบสถานีวิทยุ Tokyo FM ที่ Murakami ทำงานอยู่
ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Murakami ที่จะใช้ดอกไม้เสมือนเป็นลายเซ็นต์ของเขาประทับไว้ด้านหลังเครื่อง และเลือกใช้สีเป็นแบบ Red Jelly ให้ความโปร่งแสงที่สร้างความเก๋มากมาย และที่น่าสนใจคือราคาขายมือสองแพงกว่าของใหม่เกือบสิบเท่า
AUDEMARS PIGUET ROYAL OAK l THAILAND LIMITED LIMITED
Price 3.6M-9M
เมื่อพูดถึงแบรนด์ Royal Oak ไม่มีใครไม่เคยได้ยินแบรนด์นี้ และสำหรับรุ่นที่กำลังจะพูดถึง THAILAND LIMITED LIMITED ทาง Royal Oak ได้สร้างขึ้นมาถึง 3 รุ่นด้วยกัน แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือรุ่นนี้
ด้วยดีไซน์ของนาฬิกาเรือนนี้ให้เอกลักษณ์ของความเป็นชาติไทย ได้แรงบันดาลใจมากจากธงไตรรงค์และสีแดงที่อยู่ในตัวเรือนก็บ่งบอกถึงความเป็นประเทศไทยได้ดี โดยเฉพาะพื้นหน้าปัดยังคงเป็นเอกลักษณ์ตัวนูนตารางของ Royal Oak ยิ่งเมื่อใส่สีแดงเข้าไปยิ่งทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูโดดเด่น ลึกลับ เข้มแข็ง และสำหรับหน้าปัดย่อยด้านในก็มีทั้งสีขาวและน้ำเงิน และกลไกด้านในบอกทั้งเวลา และมี Moonphase อีกด้วยทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีคุณค่ามากขึ้นไปอีก และจำนวนผลิตทั่วโลกมีเพี่ยง 20 เรือนเท่านั้น
RICHARD MILLE l BONBON MARSH MALLOW
Price 4M-10M.
นาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจมากจากขนมหวาน เป็นความแปลกที่มีความเป็น Limited สูงมาก การให้ดีไซน์หน้าปัดเป็นแบบถึงเบียร์ แต่ยังไงก็ยังเหมาะกับผู้หญิงสายหวานหรือผู้หญิงที่มีความเนี้ยบอยู่ดี การให้สีภายในเลือกใช้เป็นสีหวานพาสเทลพันเกลียวให้ดูได้ฟิลมี Marsh Mallow ฟู ๆ อยู่บนข้อมือ วัสดุทั้งหมดจะเป็นไทเทเนียมระดับเกรด 5 กลไกภายใน ดีไซน์ภายในจะเป็นแบบ Skeleton ใช้กลไกที่เป็นแบบ Mechanics Automatic ดำน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร ไม่ใช่แค่ความสวยอย่างเดียว ยังได้การใช้งานที่มากกว่าความสวยอีกด้วย ผลิตออกมาเพียงแค่ 30 เรือนทั่วโลก
CREDOR FUGAKU Tourbillon
Price 20M
สำหรับรุ่นนี้จัดว่าเป็นรุ่น Top Brand จาก Seiko รุ่นนี้ให้ความพิเศษถึงความรู้สึกถึงประเทศญี่ปุ่นด้วยการออกแบบมาจากนักออกแบบระดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะการสร้างภาพเขียนอย่าง The Great Wave off Knangawa โดยตัวเรือนเป็นวัสดุ Platinum ทั้งหมด ภายในตัวคลื่นโฮกุไซทำด้วยทองคำทั้งเป็นแบบ White Gold และ Yellow Gold
กลไกภายในจะเป็นตระกูล Calibre 6830 ที่เป็นกลไกของ Seiko เป็นกลไกนาฬิกา Tourbillonครั้งแรกของ Seiko Calibre 6830 ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ความเชี่ยวชาญสูงสุดในการผลิตกลไกการเคลื่อนไหว และเป็นกลไกที่มีความบางเฉียบ จนจัดว่าเป็นกลไก Tourbillon ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เป็นนาฬิกาที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นได้ดีมากทีเดียว
OMEGA l SPEEDMASTER APOLLO 13 Silver Snoopy Award
Price 200K-2M
ความ Limited ของเรือนนี้อยู่ที่ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ต้องพูดถึงตั้งแต่ปี 1070 กับภาระกิจเหยียบดวงจันทร์ของยานอพอลโล่ 13 เกิดอุบัติเหตุกลางอากาศทำให้นักบินทั้ง 3 คนในขณะนั้นต้องเข้าไปในกระสวยอวกาศขนาดเล็กชื่อ LUNA MODULE และต้องมีภาระกิจเอาตัวรอดในการใช้เวลาเป็นตัวหนดการเดินทางที่ต้องแม่นยำมากที่สุด และไม่สามารถคลาดเคลื่อนได้ และแน่นอนว่าในขณะนั้น SPEEDMASTER ได้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้อย่างฉิวเฉียด
OMEGA l SPEEDMASTER APOLLO 13 Silver Snoopy Award ถูกผลิตออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 45 ปีกับภารกิจกลับสู่โลกได้สำเร็จ สำหรับดีไซน์จะมีสัญลักษณ์ snoopy อยู่บนหน้าปัดเพราะ snoopyเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นนักบินอวกาศ และมีข้อความเล็ก ๆ ภายในหน้าปัด “What could you do in 14 second” เป็นคำถามในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพวกเขาได้รับการช่วยชีวิตให้กลับสู่โลกอย่างปลอดภัยจาก SPEEDMASTER บนข้อมือพวกเขานั่นเอง