นาฬิกา Burberry เป็นอีกหนึ่งในนาฬิกาแบรนด์เนมที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของการออกแบบและยังมีเอกลักษณ์ต่าง ๆ ที่แสดงถึง Burberry ซึ่งเป็นแฟชั่นอันเก่าแก่จากประเทศอังกฤษด้วยการใช้ลาย Burberry Check หรือลายตาราง รวมไปถึงการเลือกใช้สีสันต่าง ๆ ที่บ่งบอกถึงความเป็น Burberry อีกด้วยค่ะ ในปัจจุบันนาฬิกา Burberry มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Burberry Classic Leather, Burberry Check และ Burberry Heritage Nova Check โดยแต่ละรุ่นก็จะมีสไตล์เฉพาะตัวแตกต่างกันไปอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นอีกคนที่สนใจนาฬิกา Burberry แต่ยังไม่สามารถตัดสินใจเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้ เราขอนำเสนอบทความ 10 อัน นาฬิกา Burberry รุ่นน่าซื้อในปี 2023 ที่เหล่าหนุ่มสาวสายแฟชั่นไม่ควรพลาด เรื่องนี้ เพื่อเป็นตัวช่วยให้เพื่อน ๆ ได้พบกับนาฬิการุ่นที่ถูกใจกัน
10 อัน นาฬิกา Burberry รุ่นน่าซื้อในปี 2023 ที่เหล่าหนุ่มสาวสายแฟชั่นไม่ควรพลาด
นาฬิกา Burberry รุ่น Swiss Champagne Dial – Multicolour
นาฬิการูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสให้ลุควินเทจ มาพร้อมสายอันแสน Unique ด้วยตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มาพร้อมกับกรอบและพื้นหลังสีแชมเปญแทรกด้วยลายตารางตามแบบฉบับของแบรนด์ มาพร้อมสายลาย Burberry Check ให้ให้ลุคคลาสสิก เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งกายสไตล์วินเทจ โดยขนาดหน้าปัดของรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 29 มม. และความหนาของตัวเรือนอยู่ที่ประมาณ 8 มม. เข้ากับข้อมือของผู้หญิงได้พอดี นอกจากจะใส่คู่กับการแต่งการแต่งกายทั้งแนววินเทจได้แล้วยังเหมาะกับสไตล์ Casual หรือจะสวมใส่ไปทำงานก็ได้เช่นเดียวกัน
ราคา 19,040 บาท
นาฬิกา Burberry รุ่น Large Check White Dial
นาฬิกาสีขาวตัดกับสี Rose Gold ทำให้ดูเรียบหรู สุภาพ และเป็นทางการ การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างตัวเรือนสี Rose Gold และสายหนังสีขาว จนได้ลุคแสนเรียบหรูออกมา อีกทั้งในส่วนพื้นหลังของหน้าปัดที่เป็นสีขาวก็ตัดกับมาร์กเกอร์สี Rose Gold ได้อย่างดี ช่วยให้อ่านเวลาได้ง่าย มาพร้อมช่องบอกวันที่อยู่จุด 3 นาฬิกาให้คุณเช็กวันที่ได้ด้วยค่ะ ส่วนตัวเรือนมีขนาด 38 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่พอดีกับข้อมือของผู้หญิง เหมาะกับทุกวัยทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน เข้ากับการแต่งตัวหลายสไตล์ และที่สำคัญสีของรุ่นนี้มีโทนที่ไม่ฉูดฉาดจึงให้ลุคที่ดูสุภาพ
ราคา 15,840 บาท
นาฬิกา Burberry รุ่น The Classic Round
นาฬิกาสีทองของตัวเรือนเข้ากับสายสีแดงสด ทำให้ดูหรูหราและมีราคา หากมองโดยผิวเผินอาจจะดูเหมือนกับว่ารุ่นนี้มีตัวเรือนที่เล็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วขนาดตัวเรือนอยู่ที่ประมาณ 38 มม. ซึ่งเป็นไซซ์ที่พอดีกับข้อมือของผู้หญิงเลยค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้ต่างออกไปคือมาร์กเกอร์ที่เป็นตัวเลข ได้แก่ เลข 12 และ 6 ต่างจากมาร์กเกอร์รุ่นอื่นของแบรนด์ที่เป็นขีดเท่านั้นค่ะ อีกทั้งยังเป็นสีทองสวยสดใสเข้ากับสายสีแดงสดได้เป็นอย่างดี และจุดสุดท้ายที่น่าสนใจคือ ตัวบอกวันที่ที่เป็นช่องวงกลมที่นับว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ และยังเข้ากับรูปทรงของตัวเรือนได้เป็นอย่างดีค่ะ
ราคา 10,018 บาท
นาฬิกา Burberry รุ่น The City Gunmetal Dial
สไตล์สปอร์ต มีช่องบอกวินาทีบนหน้าจอ ทำจากวัสดุที่ดูแลง่าย รุ่น The City Gunmetal Dial เป็นอีกรุ่นที่มีลุคแข็งแกร่ง ทำมาจากสเตนเลสสตีลทั้งตัวเรือนและสายทำให้ดูแลรักษาง่าย อีกทั้งยังเป็นสีดำทั้งเรือนทำให้ดูเท่สุด ๆ ยกเว้นมาร์กเกอร์ที่เป็นสีเงินซึ่งมีข้อดีคือช่วยให้อ่านเวลาง่าย พร้อมทั้งความสามารถในการกันน้ำได้ถึง 50 เมตร จึงไม่ต้องกังวลแม้จะอยู่ในที่ที่มีความชื้นสูง ส่วนสายเป็นที่ล็อกแบบ Deployment Clasp ที่ปลดล็อกง่าย และที่สำคัญคือบนหน้าปัดมีช่องบอกวินาทีเล็ก ๆ อยู่ตรงกลางด้วยซึ่งทำให้ดูโดดเด่นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ราคา 25,440 บาท
นาฬิกา Burberry รุ่น Engraved Beige Dial
สำหรับผู้ชายที่ชอบรุ่นที่เรียบง่าย ขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป รุ่นนี้เหมาะกับคนที่เน้นความเรียบง่ายเป็นพิเศษ เพราะมีหน้าปัดสีขาวน้ำนม กรอบและมาร์กเกอร์สีเงิน พร้อมสายหนังสีดำ ทำให้ภาพรวมดูสุภาพ เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน แมตช์กับการแต่งตัวสไตล์โก้หรู หรือจะสวมใส่ไปทำงานก็ได้เช่นกันค่ะ นอกจากนี้รุ่นนี้ยังมีตัวเรือนขนาดประมาณ 38 มม. ที่ไม่เล็กเกินไปช่วยให้อ่านเวลาง่าย อีกทั้งยังทำมาจากสเตนเลสสตีลที่ทนต่อการเกิดรอย และมีขอบที่สะอาดสะอ้านแต่ค่อนข้างหนา จึงเป็นรุ่นที่เหมาะกับผู้ชายมาก ๆ
ราคา 11,200 บาท
นาฬิกา Burberry รุ่น Large Check Leather on Canvas Strap
นาฬิกาสายหนังสองชั้น ดูเก๋ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังมีลาย Nova Check ด้วย เป็นอีกรุ่นที่มีสายลาย Nova Check แต่ในครั้งนี้มาเป็นแบบสายหนังสองชั้น เพราะด้านบนมีหนัง Calfskin ที่เย็บติดมาเพื่อเพิ่มสีสัน ทำให้ดูแปลกใหม่ ไม่จำเจ โดยโมเดลที่เราเลือกมาแนะนำเป็นตัวเรือนสเตนเลสสตีลสีน้ำตาล มาพร้อมสายหนังสีน้ำตาลซึ่งให้ลุคที่ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่หากคุณชอบรุ่นที่มีสีสันสดใสก็สามารถเลือกได้ เพราะในรุ่นเดียวกันนี้มีถึง 8 สี อีกทั้งยังมีหลายขนาดให้เลือกทั้ง 38, 36, 28 และ 26 มม. ให้คุณเลือกได้ตามขนาดที่เหมาะกับข้อมือของคุณ
ราคา 19,040 บาท
นาฬิกา Burberry รุ่น The City Leather Strap
รุ่นที่เหมาะกับการแต่งตัวสีเอิร์ธโทน เหมาะกับสาวอินเทรนด์ทุกคน จากเทรนด์การแต่งตัวสีเอิร์ธโทนกำลังมาแรงในปัจจุบัน ทำให้สาว ๆ หลายคนอาจจะกำลังมองหารุ่นที่เข้ากับการแต่งตัวสไตล์เอิร์ธโทน โดยรุ่นนี้มีตัวเรือนสี Rose Gold และสายสีเบจจึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีไซซ์ประมาณ 34 มม. จึงดูเล็กกะทัดรัดและมินิมอลสุด ๆ อีกทั้งยังมีลายบนหน้าปัดและบนเม็ดมะยมที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ด้วย ซึ่งนอกจากจะเข้ากับสีเอิร์ธโทนแล้วคุณยังสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับการแต่งกายสไตล์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ราคา 15,840 บาท
นาฬิกา Burberry รุ่น The City Chronograph Dark Grey Dial
Chronograph บอกวันเวลาได้อย่างละเอียด เหมาะกับผู้ชาย สำหรับหนุ่ม ๆ คนไหนที่กำลังมองหารุ่นที่แลดูเท่ และเหมาะกับการสวมใส่ในหลาย ๆ โอกาส เราขอแนะนำรุ่น The City Chronograph รุ่นนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากจะมีหน้าจอที่แสดงผลแบบ Chronograph ที่มีช่องบอกเวลาได้หลายแบบแล้ว ยังให้กลิ่นอายของความสปอร์ตและมีลุคที่ดูเท่มาก ๆ มาพร้อมดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายด้วยสายหนังที่ปรับความยาวได้หลายขนาด และตัวเรือนทรงกลมสวยสะอาดตา เหมาะกับการสวมใส่ทั้งในชีวิตประจำวัน และงานที่เป็นทางการด้วย
ราคา 22,240 บาท
นาฬิกา Burberry รุ่น The City Engraved Check
นาฬิการุ่นนี้ทำจากสเตนเลสสตีลทั้งเรือน แทรกด้วยลายสัญลักษณ์ของแบรนด์ ถึงแม้ว่าตัวเรือนและสายของรุ่นนี้จะทำมาจากสเตนเลสสตีล แต่แบรนด์ก็สามารถดีไซน์ให้มีลายคลายกับ Burberry Check ได้อย่างสร้างสรรค์ แตกต่างกันเพียงสีที่เป็นแบบโมโนโทน จึงแลดูเป็นนาฬิกาสเตนเลสสตีลที่ไม่เหมือนใครเลยทีเดียว โดยรุ่นนี้ที่เราเลือกมาแนะนำนั้นน่าจะถูกใจสาว ๆ เป็นพิเศษ เพราะมีสี Rose Gold ที่เข้ากับการแต่งกายหลายสไตล์และมีขนาดประมาณ 38 มม. หนาประมาณ 8 มม. ซึ่งดูไม่เล็กหรือใหญ่เกินไปสำหรับข้อมือของผู้หญิงเป็นอย่างมาก
ราคา 15,840 บาท
นาฬิกา Burberry รุ่น Heritage Nova Check
สายแบบวินเทจมาพร้อมลาย Nova Check ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร หากคุณกำลังมองหารุ่นที่แสดงถึงความเป็น Burberry อย่างชัดเจนที่สุด เราขอแนะนำรุ่น Heritage Nova Check เรือนนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากจะมีพื้นหลังของหน้าปัดแบบตารางสีขาวสวยสะอาดตา ตัดกับโลโก้สีดำบนหน้าปัดทำให้อ่านง่าย ที่สำคัญคือ สายของรุ่นนี้ยังมีลาย Nova Check ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงแบรนด์ได้อย่างดีที่สุด ตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 38 มม. สวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหมาะกับการใส่ในชีวิตประจำวัน และเข้ากับการแต่งกายหลายสไตล์
ราคา 17,120 บาท
สรุป
หากลองสังเกตดูจะเห็นว่านาฬิกาของ Burberry แทบทุกรุ่นนั้นส่วนใหญ่จะมีลาย Burberry Check บนหน้าปัด ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของแบรนด์ ดังนั้นสำหรับคนที่ให้ความสำคัญในเรื่องของโลโก้หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ เราขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีลักษณะดังกล่าวได้เลย อย่างเช่นรุ่นที่เราหยิบมาฝากกันในบทความ 10 อัน นาฬิกา Burberry รุ่นน่าซื้อในปี 2023 ที่เหล่าหนุ่มสาวสายแฟชั่นไม่ควรพลาด เรื่องนี้