เรื่องน่ารู้ “ทำไมนาฬิกาต้องแพง”

รีวิวนาฬิกา

เป็นการตั้งคำถามมานานนับศตวรรษกับเรื่องของนาฬิกาจึงมีราคาจัดว่าแพงมากถึงแพงมาก ๆ ซึ่งราคาอยู่ในระดับหลักล้านถึงหลักร้อยล้าน ทั้ง ๆ ที่บางเรือน function เหมือนปรกติทั่วไปและหน้าที่ที่ไม่ต่างกันก็คือการบอกเวลาเป็นหลัก เรามาค้นหากันว่า ทำไมนาฬิกาถึงแพงกันจากบทความที่นำมาให้คุณได้รู้ด้านล่างนี้

ก่อนอื่นเราต้องรู้กันก่อนว่า ราคานาฬิกาที่สูงนี้ไม่ได้หมายความว่าแบรนด์จะตั้งขึ้นมาได้จากความพึงพอใจเท่านั้น เพราะราคาที่ออกมาก็ต้องมาพร้อมกับจุดเด่นบางประการจนทำให้นักสะสมยอมควักกระเป๋าเพื่อมัน มาดูกันว่าอะไรที่เป็นตัวทำให้นาฬิกาเกิดความแตกต่าง 

1. Heritage จากรุ่นสู่รุ่น

คุณค่าของคำว่ามรดกตกทอดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นาฬิกา มีราคาสูง สำหรับนาฬิกาแบรนด์ดัง ๆแล้วนั้นประสบการณ์และการต่อสู้อย่างยาวนานเป็นมรดกตกทอดที่ล้ำค่า ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นการก่อตั้งจนถึงการสร้างแบรนด์จนชำนาญและการพัฒนาและการส่งต่อด้านเทคโนโลยี การปรับปรุงและการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประสบการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งจนทำให้นาฬิกาแบรนด์ดังเหล่านี้มีความเป็นเอกลักษณ์จนหาใครเทียบแทบไม่ได้ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมราคาถึงสูงลิบได้ขนาดนั้น

2. MATERIAL วัสดุ

สำหรับวัสดุที่นำมาใช้ วัสดุเหล่านี้สำหรับนาฬิกาแบรนด์ดังหรือแบรนด์ไฮเอนด์ทั้งหลายมักจะนิยมใช้วัสดุที่เป็นระดับพรีเมี่ยม Gold/ Platinum/ Titanium วัสดุเหล่านี้จะทำให้นาฬิกามีมูลค่าสูงกว่าผลิตจาก Stainless Steel  ดูได้จากนาฬิกาแบรนด์ Rolex Submariner  รุ่นที่ทำมาจาก Stainless Steel นั้นราคาจะอยู่ที่หลัก 300,000 บาท  บาทแต่ บาทแต่เมื่อไหร่แล้วเป็น ที่ ที่เป็นตัวทำ ที่เป็นตัวทำจากทองคำราคา จะพุ่งขึ้นไปจนถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว 

และสำหรับบางรุ่นไม่เพียงแต่วัสดุเท่านั้นที่มาจากวัสดุเนื้อดีด้วยตัวมันเอง แต่มันยังมาจากรูปแบบของวัสดุนั้น เพราะทุกวัสดุที่เลือกนำมาใช้ต้องมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในการผลิตเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละวัสดุมีความชำนาญพิเศษที่แตกต่างกัน จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นาฬิกามีราคาแพง

3. MOVEMENTกลไกที่ซับซ้อน

ฟังก์ชันนาฬิกาและกลไกเป็นความสำคัญตัวหลักที่จะทำให้ราคาของนาฬิกามีราคาพุ่งขึ้นสูง พ่อของฉันที่ซับซ้อนในนาฬิกาแบรนด์ Hi end บางรุ่นเท่านั้นมีความซับซ้อนที่ยากจนเหมาะสมกับราคาที่พวกเขาตั้งขึ้น ละมุดเม็ดหรือกลไกของนาฬิกาก็จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ

ETA Movement เป็นการผลิตกลไกนาฬิกาจากบริษัทที่มีความชำนาญพิเศษในเรื่องของกลไกนั้นๆแล้วนำมาประกอบเข้ากับตัวเรือนนาฬิกาของแบรนด์

In-House Movement เป็นการผลิตกลไกของนาฬิกาจากแบรนด์ของนาฬิกานั้นเอง

ซึ่ง 2 องค์ประกอบนี้จะเป็นตัวที่ทำให้ราคาของนาฬิกาเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ยกตัวอย่างเช่น  Patek Philippe  Grand Complication 5204 R ด้วยความพิเศษเฉพาะจาก Split-Second Chronograph movement ซึ่งจัดว่าเป็น movement ที่มีความซับซ้อนอย่างมากต่อให้เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้คือรุ่น Patek Philippe  

Calatrava 5196R ก็ยังคงมีราคาแพงกว่าถึง 10 เท่าด้วยกัน เพราะความซับซ้อนของ movement ในรุ่น Complication 5204 จัดว่ารุ่นแรกอย่างเทียบกันไม่ได้เลยถึงแม้ว่าจะทำมาจากทองคำที่ตัวเรือนเหมือนกันทั้งคู่ก็ตาม

4. FINISHING การเก็บรายละเอียด

หากเราพูดถึงเรื่องของงาน finishing หรือการเก็บรายละเอียดจะเป็นตัววัดระดับของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ประกันเก็บรายละเอียดที่ดีเนี้ยบจากภาพเป็นศิลปะขั้นสูงที่จะทำให้นาฬิกาเรือนนั้นมีคุณค่ามากกว่านาฬิกาเรือนอื่นๆ เราหยิบยกนาฬิกาที่เป็น 1 ใน 3 ของความเป็น Holy Triinity ที่เป็นการบอกได้ถึงความเป็นที่สุดของที่สุดของนาฬิกาในเรื่องของการมีรายละเอียดในตัวเรือนสูงยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ Patek Philippe ที่ภายในตัวเรือนได้ใช้การเก็บรายละเอียดด้วย hand finish  ซึ่งก็คือการเก็บงานด้วยฝีมือจากคนนั้นเองแต่ยังคงมีอีกแบรนด์นึงที่มี finishing สู้ Patek Philippe ได้นั่นก็คือ A. LANGE & SHONE SAXONIA ANNUAL CALENDA ที่ใช้คนในการแกะสลักเป็นชื่อที่มีขนาดเล็กมากจนต้องใช้วิธีการซูมในการดู จัดได้ว่าเป็นงาน Finishing แบบ Hand Finish ที่มีความสมบูรณ์แบบมาก จนทำให้นาฬิกามีราคาที่สูง

5. SUPLY & DEMAND ความต้องการของตลาด

สำหรับเรื่องของความต้องการของตลาดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และในกับบางรุ่นหรือบางเดือนด้วยแล้วนั้นต่อให้คุณมีเงินมากขนาดไหนคุณก็ไม่อาจซื้อมันได้ จึงทำให้ปัจจัยนี้ทำให้นาฬิกามีราคาสูง ดูได้อย่างเช่นแบรนด์เหล่านี้ 

  • Rolex Detona
  • Patek Philippe Nautilus
  • Audmar Piguet Royal Oak

ทั้งสามรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีความต้องการในตลาดนาฬิกาไฮเอนค่อนข้างสูงมาก จนทำให้หายากเพราะแทบไม่มีใครใช้แบบซื้อขาย เพราะเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงมากทำให้หายาก ดังนั้นเมื่อนาฬิกาถูกจัดอยู่ในรุ่นหายาก แน่นอนว่าราคาย่อมอยู่ในกลุ่มราคาสูงถึงสูงมากเลยทีเดียว และในแต่ละปีนาฬิกาเหล่านี้จะถูกผลิตออกมาอย่างจำกัด เพราะต้องใช้เวลาในการออกแบบกลไกที่ซับซ้อนและการเก็บงาน Hand Finish ที่ต้องมีความ Finishing ค่อนข้างสูงมาก จนบางครั้งนาฬิกาเหล่านี้มีราคามือสองที่สูงกว่าราคาใหม่หน้าร้านเลยก็มี 

เมื่อคุณได้รู้แล้วว่า ทำไมราคาต้องแพง ทั้งกับแบรนด์ธรรมดา และแบรนด์ไฮเอน มันอาจจะทำให้คุณเพิ่มความหลงไหลในนาฬิกาที่คุณใฝ่ฝันมากเข้าไปอีก เพราะการเก็บรายละเอียดเหล่านี้ ไม่เพียงแต่สร้างมูลค่าให้กับตัวนาฬิกาอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังสามารถเป็นคุณค่าทางด้านจิตใจของผู้เป็นเจ้าของได้เหมือนกับเป็นสมบัติล้ำค่าในชีวิตได้เลย watchfunonline

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เว็บบาคาร่า

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG