ประวัติแห่งตำนาน Omega

รีวิวนาฬิกา

ตำนานของนาฬิกาที่ได้นักบินอวกาศได้ใช้บนดวงจันทร์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานถึงเกือบสองร้อยปี การได้เป็นนาฬิกาบนดวงจันทร์ในตำนานก็เพราะได้รับการพิสูจน์จาก Nasa ถึงประสิทธิภาพของนาฬิกา Omega และยิ่งไปกว่านั้น ยังได้ดำดิ่งลงไปในส่วนที่ลึกที่สุดในโลกอีกด้วย

จุดเริ่มต้นของ Omega 

แบรนด์ Omega ถือกำเนิดเรื่องราวขึ้นในปี 1848 เมื่อง LA CHAUX-DE-FONDS ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นการเริ่มต้นจากการต้องการพัฒนาระบบและรูปแบบนาฬิกาให้มีความเป็นสากลมากขึ้น นั่นก็คือชายหนุ่มวัย 23 ปีขณะนั้นที่ชื่อ LOUIS BRANT เขาใช้เวลาไม่นานกับความตั้งใจของเขา ชื่อเสียงของนาฬิกาที่เขาทำได้รับการยอมรับจากผู้คนในประเทศสวิสอย่างรวดเร็วภายใต้แบรนด์ Omega และหลังจากนั้นในปี 1879 เขาก็ได้เสียชีวิตลง

กิจการของ Omega ดำเนินต่อไปจากผู้บริหารลูกชายทั้งสอง Louis Paul and Cesar Brandt พวกเขาได้ยกระดับนาฬิกาด้วยการออก OMEGA CALIBRE LABRADOR ที่เป็นนาฬิกาแบบ Calibre รุ่นแรกออกมา อีกทั้งยังผลิตนาฬิกาข้อมือที่สามารถบอกเวลาเป็นชั่วโมงและนาทีได้เป็นเรือนแรกของโลก นาฬิกาปฏิทินขนาดใหญ่เรือนแรกอีก อีกทั้งเป็นการตามมาของการเปิดตัว OMEGA CALIBER 19 อีกในปี 1894 ถือว่าเป็นการสร้างแบรนด์ด้วยนาฬิกาติดอันดับหนึ่งในหลายรูปแบบที่เร็วที่สุดในโลก โดยเฉพาะเป็นต้นแบบแห่งการตั้งเวลาและไขลานด้วยเม็ดมะยมเพียงอันเดียวที่ทำให้กลายเป็นคุณสมบัติเฉพาะของนาฬิกาที่ใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้

OMEGA CALIBRE LABRADOR

การได้รับรางวัลและการเปลี่ยนชื่อบริษัทครั้งใหญ่

ในปี 1896 OMEGA ได้ทำให้โลกได้เห็นถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของแบรนด์ OMEGA ด้วยการคว้ารางวัล นาฬิกาคุณภาพเยี่ยม ทันสมัย มีความแม่นยำสูงมาก จาก Swiss National Exhibition และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทครั้งใหญ่เป็น Louis Brandt & Frere OMEGA Watch Co. ในปี 1903 เป็นปีที่ผู้บริหารทั้งสอง Louis Paul and Cesar Brandt เสียชีวิตลง

ตำนาน OMEGA SEAMASTER 

ในปี 1948 OMEGA ได้ผลิตนาฬิกากันน้ำรุ่นแรกของโลกนั่นก็คือรุ่น Seamaster ที่โด่งดังไปทั่วโลกในขณะนั้น แต่ประสิทธิภาพการกันน้ำของ Dress Watch รุ่นแรกเรือนแรก ยังใช้งานกันน้ำได้ไม่ดีนัก แต่ก็ยังมีเรือนที่กู้หน้าขึ้นมาด้วยการสร้างนาฬิกาให้กับกองทัพอังกฤษในการใช้งาน 

สำหรับหลายคนก็ยังมีความชื่นชอบใน OMEGA รุ่นแรกมากเพราะมีความคลาสสิค ทาง OMEGA จึงได้ผลิต OMEGA SEAMASTER 1948 ออกมาเพื่อตอบการเรียกร้องและฉลอง 70 ปีการอยู่บนตลาดโลกของนาฬิการุ่นนี้ ดีไซน์โดยรวมใช้ Seamaster ตัวแรกเป็นต้นแบบ และปรับกลไลของเครื่องด้วยการใช้ Calibre 8806 และที่สำคัญกว่านั้น รุ่นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานการใช้งาน MASTER CHRONOMETER CERTIFICATE ของสถาบัน METAS มีการผลิตรุ่นนี้เพียงแค่ 1948 เรือนทั่วโลก 

OMEGA SEAMASTER 1948

ยุครุ่งเรืองของ OMEGA

มีการเริ่มต้นการแข่งขันเรื่องความเที่ยงตรงของนาฬิกาที่วัดกันระดับโลกในยุค 50’s ปี 1952 OMEGA ได้ผลิตนาฬิกาเพื่ออวดความเที่ยงตรงในรุ่น OMEGA CONSTELLATION และรุ่นนี้ได้รับรางวัลจาก COSE สถาบันการจัดอันดับความแม่นยำระดับโลก ที่สำคัญ OMEGA ยังสามารถยืนอยู่ในอันดับหนึ่งมาอย่างยาวนานถึง 20 ปี ทำให้ในรุ่นของ Constellation จะได้รับการรับรองมาตรฐาน COSE ทุกเรือน

ความโดดเด่นของ OMEGA CONSTELLATION หน้าปัดทรง 12 เหลี่ยม และตัวเลขบอกเวลาที่ชัดเจน เพิ่มดีไซน์ดวงดาวติดอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา สร้างลูกเล่นที่มีมูลค่าเข้าไปอีก และมีการแกะสลักหอดูดาวไว้ที่ด้านหลังเรือนนาฬิกา สำหรับรุ่น Constellation จะใช้กลไกการบอกเวลาของ Calibre 354 

 OMEGA CONSTELLATION

การกำเนิด The Trio of Master Watches 

ในปี 1957 OMEGA ได้ปล่อย The Trio of Master Watches เป็นนาฬิกาแบบ Professional 3 เรือนคือ Seamaster 300 / Railmaster / Speedmaster เป็นการปรับเปลี่ยนจากรุ่นแรกโดยสิ้นเชิง 

Seamaster 300 มีการเพิ่ม O-Ring ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันแรงดัน มาพร้อมกับตัวเรือนสแตนเลสสตีล ใช้หน้าปัดแบบ Topical มีการผนึกอย่างดีและทำให้กันน้ำได้ถึง 300 เมตร เหมาะสำหรับนักดำน้ำ

Seamaster 300

Railmaster ที่สร้างมาสำหรับการใช้งานของ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับงานสนามแม่เหล็ก อย่าง นักวิทยาศาสตร์ ช่างเทคนิ ช่างทำงานกับสนามไฟฟ้า ตัวเรือนถูกสร้างเป็นแบบป้องกันสองชั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันแม่เหล็กสูง

Railmaster

Speedmaster เป็นนาฬิกาที่มีความเป็น Iconic ระดับตำนานมากที่สุดในโลก และเป็นนาฬิกาที่ให้การออกแบบเป็น Sport & Racing Watch ถูกเลือกใช้ในงานโอลิมปิกโลก โดยกรอบหน้าปัดได้แรงบันดาลใจจากมาตรวัดความเร็ว จึงเป็นรุ่นแห่งตำนานที่สุด 

Speedmaster

ใน 3 รุ่นนี้ มีเอกลักษณ์ที่เหมือนกันก็คือ หัวของเข็มบอกเวลาจะเป็นลูกศรอันเป็นเอกลักษณ์ที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อให้ความโดดเด่นโดยเฉพาะ

ที่มาแห่งตำนาน Moonwatch

เมื่อโลกเข้าสู่ยุค 60’s ยุคที่มวลมนุษยชาติต้องจดจำ เพราะโลกเริ่มมีการท่องสู่จักรวาลเพื่อดูดาวดวงอื่นในอวกาศ และ OMEGA จึงเป็นหัวแรงสำคัญสำหรับภารกิจนี้ เพราะเป็นแบรนด์ที่ถูกเลือกจากเงื่อนไขหลักของ Nasa คือ ต้องมีความทนต่อสภาพแวดล้อม และให้ความแม่นยำทีดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องอุณหภูมิความร้อนเย็นแบบสูงสุดและติดลบในระดับที่ร้อนสุด 93 องศา และเย็นที่สุดถึง -18 องศาเซลเซียส และจากการทดสอบที่ยาวนานจนในที่สุด OMEGA ได้ถูกเลือกให้สวมใส่ในข้อมือของนักบินอวกาศ ทั้งหมดใช้เวลาทดสอบถึง 3 ปีเลยทีเดียว

จบลงแล้วกับประวัตินาฬิกาแห่งตำนานอย่าง OMEGA ที่ใครได้อ่านแล้วเชื่อว่าแทบอยากจะหามาใส่ไว้ในข้อมือหรือเป็นของสะสม เพราะการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ OMEGA ที่สร้างนาฬิกาเรือนแล้วเรือนเล่ามาให้นักสะสมได้ชื่นชม เพราะการันตีได้ว่าแบรนด์นาฬิกา OMEGA นั้น ยังคงรักษามาตรฐานระดับโลกไว้กับนาฬิกาทุกเรือนที่พวกเขาผลิตมา ไม่มีเรือนไหนที่จะสามารถหลุดมาตรฐาน เพราะ OMEGA เป็นแบรนด์ตลาดบนแห่งโลกนาฬิกาที่ไม่เคยทำให้ใครต้องผิดหวังเลย  watchfunonline

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์ ขั้นต่ำ 5 บาท

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG